วันพุธที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2558

Tense 
 คือรูปแบบ(หรือโครงสร้าง)ของกริยา ที่แสดงให้เราทราบว่า การกระทำหรือเหตุการ 
นั้นๆเกิดขึ้นเมื่อใด ซึ่งเรื่อง tense นี้เป็นเรื่องสำคัญ ถ้าเราใช้ tense ไม่ถูก 
เราก็จะสื่อภาษากับเขา ไม่ได้ เพราะในประโยคภาษาอังกฤษนั้นจะอยู่ในรูปของ tense 
 เสมอ ซึ่งต่างกับภาษาไทยที่เราจะมีข้อความบอกว่าาเกิดขึ้นเมื่อใดมาช่วยเสมอ 
 แต่ภาษาอังกฤษจะใช้รูป tense นี้มาเป็นตัวบอก ดังนี้การศึกษาเรื่อง tense 
 จึงเป็นเรื่องจำ เป็น. อ่านเพิ่มเติม


Infinitive without “to” 

คือกริยาช่องที่ 1 ที่ไม่มี to นำหน้า มีลักษณะการใช้คือ

1. ใช้ตามหลังกริยาช่วย (auxiliary verb) จำพวก can, could, do, did,
 may, shall, should, will, would, must, need, dare etc. เช่น

– You must come with us. (คุณจะต้องไปกับพวกเรา)

– Did you hear a noise? (คุณได้ยินเสียงนั่นหรือเปล่า)

– He daren’t leave her. (เขาไม่กล้าพอที่จะปล่อยเธอไป)

2. ใช้ตามหลังกริยาที่แสดงการรับรู้, การสังเกตเห็น เช่น

– I heard him leave the house. (ฉันได้ยินสียงเขาออกจากบ้านไป)

– She saw him take money. (เธอเห็นเขาหยิบเงินไป)

* แต่ถ้าใช้ในประโยค Passive Voice จะต้องมี “to” นำหน้า เช่น

-He was heard to leave the house. (ได้ยินว่าเขาออกจากบ้านไป)

– He was seen to take money. (เขาถูกเห็นว่าหยิบเงินไป )

3. ใช้ตามหลัง “have” ในกรณีที่มีความหมายว่า “ต้องการ” เช่น

– I’ll have the carpenter mend this door.

ฉันต้องการให้ช่างไม้มาซ่อมประตูบานนี้

– I won’t have him cheat me.

ฉันไม่ต้องการให้เขามาโกงฉัน  อ่านเพิ่มเติม


หลักการใช้ Infinitive with to

1. แสดงความปรารถนา ขอร้อง หรือ คำสั่ง

Verb + to infinitive

เช่น He asked me to wash his car. (ขอร้อง)

2. แสดงวัตถุประสงค์ หรือ เหตุผล

เช่น She gets up early to see the sunrise.

3. ปกติถ้าแสดงวัตถุประสงค์ทั่วๆ ไป จะใช้ for + gerund

เช่นA knife is a tool for cutting with.

แต่ถ้าแสดงวัตถุประสงค์เฉพาะจะใช้ ‘to’ infinitive

เช่น I want a knife to cut the bread with.

4. เป็นคำสั่งหรือหน้าที่ หรือแผนการที่มีความหมายว่าต้องกระทำ

to be + ‘to’infinitive

Peter and Ann are to get married next month. (แผนการ)

5. แสดงอนาคตอันใกล้ to be about + ‘to’ infinitive

They are about to start. อ่านเพิ่มเติม